
ลูกนั้นเราจะมีเวลากับเขามากที่สุดก็เพียงระยะ10ปีแรกเท่านั้นเอง
พอหลังจากนั้นเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันจะเริ่มลดลงซึ่งในปีแรกนั้นเราจะได้อุ้มลูกนอน6เดือนแรกแล้ว
พอจากนั้น“ลูกจะนอนได้เอง”เวลาในการอุ้มลูกก็มีแค่1ปีเท่านั้น
เพราะว่า…หลังจากนั้น“เขาก็เดินได้เอง”เราก็มีเวลาในกอดเล่นกับลูกได้เพียง2ปีเท่านั้น
พอหลังจากนั้น“เขาก็ไม่ยอมให้กอดนานๆ”แล้วเราก็จะมีเวลาพูดให้ลูกฟังเพียงแค่3ปีแรกเท่านั้น
เพราะ…หลังจากนั้น“เขาจะเริ่มไม่ฟังเราแล้ว”เรามีเวลาอยู่กับลูกตลอดเพียง10ปีเท่านั้นเอง
เพราะ…หลังจากนั้น“เขาจะไม่ยอมอยู่บ้านกับเราแล้ว”และอยากจะอยู่กับเพื่อนมากกว่าเรา
ก็จะดูแลลูกได้อย่างดีที่สุดก็เพียง15ปีแรกเท่านั้นเองเพราะ…หลังจากนั้น“เขาก็ไม่อยากให้เราดูแลเขาเองก็มีชีวิตของเขา”
และบางคนก็สามารถดูแลตัวเองได้แล้วไม่อยากจะเป็นภาระของใครลูกเองเขาก็ต้องการจะมีใช้ชีวิตของเขา
มีแบบแผนชีวิตของตัวเองหลังจากนั้น“เราอาจจะไม่ได้เจอลูกเลย”
เวลาอาจจะไม่ตรงกันแล้วเวลาของใครสักคนก็หมดลงเหมือนกันในวันที่ลูกยังอยู่กับเราก็ควรจะใช้เวลาอยู่กับลูกค้าให้คุ้ม
พอเขาโตแล้วเขามีครอบครัวมีภาระหน้าที่มีเป้าหมายมีความฝันเป็นของตัวเองเขาเริ่มทำงานและเริ่มมีเวลาน้อยลงแล้ว
วันนั้นมันมาถึงแน่นอนก็อย่าได้ยึดติดอะไรเพราะ…นั่น“มันชีวิตเขา”
คุณเองก็มีชีวิตของคุณไม่ควรจะวางความคาดหวังอะไรไว้กับลูก
เพราะ…ถ้าคุณรักลูก“คุณจะไม่เอาภาระเอาความคาดหวังอะไรของตัวเองไปให้เขาแบก”
ในช่วงเวลาที่ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง15ปีเรายังอยู่กับเขาได้เต็มที่ก็จงกอบโกยช่วงเวลานั้นไว้ให้ดี
ฉะนั้นแล้วจงทำทุกวันให้มีค่าที่สุดที่จะอยู่ด้วยกันกับลูกในช่วง10ปีแรกเวลามักผ่านไปไวเสมอ
เผลอแปบๆเวลาชีวิตของเราก็จะหมดลงแล้ว..ชีวิตคนเรามีเวลาอย่างจำกัดแต่ความรักและความผูกพันธ์ที่มีให้แก่กันนั้นจะไม่มีวันหมดลงตามไป
จงสร้างความทรงจำที่ดีให้ไว้แก่กันและในยามที่ยังมีกันและกันอยู่
แม้แต่คนเป็นลูกเองก็ตามเราไม่ได้มีเวลาอยู่กับพ่อแม่ไปได้ตลอดหรอกนะ
สักวันเวลาของพวกท่านก็ต้องหมดลงจงรีบดูแลท่านตอนที่ท่านยังมีลมหายใจ